15 จุดเช็คอิน กรุงเทพ เที่ยวรอบกรุงสไตล์คนเก๋ | HatyaiSogood

15 จุดเช็คอิน กรุงเทพ เที่ยวรอบกรุงสไตล์คนเก๋ | HatyaiSogood

ใกล้จะวันหยุดยาวแล้วจ้าทุกคน แล้วสายเที่ยวแบบเราจะพลาดได้ไง !!
วันนี้แอดรวมลายแทง 15 จุดเช็คอิน กรุงเทพ เที่ยวรอบกรุงสไตล์คนเก๋ มาฝากเพื่อน ๆ
อยากจะชวนไปเดินเชิ่ดๆ ในเมืองกรุง เดินชอปปิ้ง แล้วไปหาเมนูเด็ดใส่ท้องกัน มุมถ่ายรูปฮิป ๆ กรุงเทพฯ
ก็มีเยอะ ไปเดินเล่นพิพิธภัณฑ์แล้วแวะกราบองค์พระขอพรรับปีใหม่ สนุกครบรสได้บุญอีกต่างหากที่สำคัญไปได้
ง่าย ๆ รวดเร็วทันใจ เพราะบินไปกับ ตั๋วเครื่องบินราคาดี ๆ
ใน Traveloka เขามีโปรโมชั่นเยอะมาก ตั๋วเครื่องบินลดราคาบ่อยสุด ๆ ไม่รอช้าไปดูกันเลยจ้า !!

เปิดแอพ https://www.traveloka.com/th-th/flight/route/Hat-Yai-Bangkok.HDY.BKKA

1. ตลาดนัดสวนจตุจักร

พิกัดช้อปปิ้งเด็ดในกรุงเทพฯ ที่ไม่อยากให้พลาดกัน ตลาดนัดจตุจักรนั้นเป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย
และเป็นหนึ่งในตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีเฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์เท่านั้น
และมีร้านรวงขายของกันมากกว่า 8,000 ร้านค้า ไม่ว่าจะมองหาอะไรอยู่ก็มาหาดูที่นี่ได้เกือบทุกอย่างเลยละ
นอกจากความหลากหลายแล้ว ความสนุกของการเดินช้อปที่ตลาดนัดสวนจตุจักรก็คือการต่อรองราคา
ซึ่งทำให้การช้อปปิ้งมีชีวิตชีวาขึ้นอีกหลายเท่าตัวเชียว
การเดินทางมาก็ง่ายเพราะมีบริการรถสาธารณะสารพัดรูปแบบจ้า สำคัญที่สุดคือพกเงินมาให้พอช้อปก็แล้วกัน!

2. วัดโพธิ์

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์แห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่นักเดินทางทั่วโลกต่างปักหมุดมา
อย่างแรกก็เพราะเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในยุคกรุงศรีอยุธยาและได้รับการสถาปนา
ให้เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรีภายในวัดมีสถาปัตยกรรมในรูปแบบที่สวยงามแปลกตาและหาดูได้ยาก
ไม่ว่าจะเป็นพระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ศิลาจารึกรวมความรู้ต่าง ๆ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
รวมถึงองค์พระนอนซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย และที่พลาดไม่ได้ก็คือการแวะนวดไทยใน
แบบต้นตำรับเพื่อความผ่อนคลาย มาเช็คอินเมื่อไหร่รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

3. มหานครสกายวอล์ค

เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ไม่อยากให้พลาดเมื่อมาเยือนกรุงเทพฯ เพราะมีความสนุกหลายรูปแบบให้ได้สัมผัสกัน
เริ่มตั้งแต่เครื่องเล่น VR ในชั้นหนึ่งซึ่งเราจะได้โบยบินบนท้องฟ้าแบบสมจริงสุด ๆ เลยละ
ต่อด้วย Digital Wall สุดล้ำ และลิฟท์มัลติมีเดียสุดตื่นตาที่มาพร้อมความเร็วที่สุดในประเทศไทย!
ที่ชั้น 74 เราจะได้เจอกับจุดชมวิวในอาคารแบบ 360 องศา ก่อนจะมาจบที่พื้นกระจกลอยฟ้าบนชั้น 78
ซึ่งจะให้ฟีลเหมือนเรากำลังลอยอยู่เหนือกรุงเทพฯ ด้วยความสูง 310 เมตรเลยจ้า ปิดท้ายด้วยการชมวิวจากมุมสูง
314 เมตรของอาคารที่สูงที่สุดในเมืองไทย ชิลล์ขนาดไหน ลองคิดเอา!

4. เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์

อดีตท่าเรือขนส่งระหว่างประเทศแห่งแรกและใหญ่ที่สุดของเมืองไทยในสมัยรัชกาลที่ 5
ซึ่งได้รับการพลิกฟื้นให้กลับขึ้นมามีชีวิตชีวาและกลายเป็นแหล่งแฮ้งค์เอ๊าท์
ยอดนิยมแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ในปัจจุบัน นอกจากการเดินชมสิ่งก่อสร้างสุดคลาสสิกในยุคอดีตแล้ว
ที่นี่ยังมีสารพัดข้าวของให้เดินช้อปปิ้งกันแบบเพลินสุดๆ เลยละ อยากกินอะไรเค้าก็มีให้เลือกกันแทบจะทุกสัญชาติ
จะคาวจะหวาน จะเวสเทิร์นหรือเอเชีย ก็มาจัดหนักกันท่ามกลางบรรยากาศสุดชิลล์ของที่นี่ แถมยังมีกิจกรรมน่าสนใจอีกเพียบ
ให้ทำกันจ้ามุมถ่ายรูปเด็ดๆ ก็เพียบเชียวละ รับรองว่าได้รูปเช็คอินแบบจุใจแน่นอน

5. วัดอรุณราชวราราม

วัดอรุณฯ นั้นไม่ได้เป็นแค่แลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ อย่างเดียวนะ แต่จะเรียกว่าเป็นโลโก้ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้
เพราะความงดงามของพระปรางค์สูงริมแม่น้ำเจ้าพระยา น่าจะเป็นหนึ่งภาพที่ติดตานักเดินทางทั่วโลกกันไปแล้ว
วัดอรุณฯ หรือวัดแจ้งนั้นสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และนับเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 ของราชวงศ์จักรี
ภายในวัดมีจุดเช็คอินที่งดงามแปลกตาเพียบเลยจ้ะ โดยมีไฮไลท์เป็นองค์พระปรางค์สีขาวสะอาดตาสูง 81.85 เมตร
ประดับประดาด้วยกระเบื้องสีสันสดใส มาไหว้พระก็ได้ มาถ่ายรูปก็ปังนะ อย่าลืมแวะมาเช็คอินกัน

6. ตลาดวังหลัง

พิกัดยอดฮิตของบรรดาเหล่าฮิปสเตอร์ เพราะสิ่งที่จะได้เจอแบบจุก ๆ ในตลาดวังหลังส่วนใหญ่ก็จะเป็นเสื้อผ้าแนว ๆ
ทั้งมือหนึ่งและมือสอง เห็นแนว ๆ แบบนี้ จริง ๆ ที่นี่เป็นตลาดเก่าแก่ซึ่งมีมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 1 กันเลยนะ
นอกจากจะเป็นแหล่งช้อปเสื้อผ้าและแอ็คเซสซอรี่ส์เก๋ ๆ แล้ว ตลาดวังหลังยังเป็นพิกัดรวมของกินเด็ด ๆ
ทั้งคาวหวานหลากหลายสัญชาติให้ได้แวะชิมกันเพียบเลยจ้า ใครชอบการเดินช้อปข้าวของแบบ
ที่ต้องเสาะหาและเลือกสรร บอกเลยว่านี่ละสวรรค์ชัด ๆ เลย

7. ถนนข้าวสาร

ในช่วงเวลาปกติ นี่คือแหล่งรวมนักเดินทางทุกสัญชาติจากทั่วโลกเลยจ้า! ถนนข้าวสารนั้นขึ้นชื่อลือชา
ในเรื่องที่พักราคาสบายกระเป๋าซึ่งมีให้เลือกกันหลากหลายสไตล์ และเพราะเป็นถนนซึ่งเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ
ที่นี่จึงมีอาหารสารพัดรูปแบบให้เลือกสรร ตามมาด้วยร้านขายสินค้าทั้งเสื้อผ้า ของใช้ และของที่ระลึกน่าซื้อหา ปิดท้ายรอบดึก
กับบาร์ผับ และร้านนั่งชิลล์หลากหลายสไตล์ อยากมันเบอร์ไหนก็เลือกได้เลยจ้า ใครชอบความบันเทิงต้องมาให้ได้เชียว

8. คลองโอ่งอ่าง

จะบอกว่าเป็นแหล่งเช็คอินยอดฮิตล่าสุดของคนกรุงก็ว่าได้ กับถนนคนเดินแห่งใหม่ที่เปิดให้ไปชิลล์กันได้ทุกวันศุกร์ – อาทิตย์
ซึ่งมีกราฟิตี้เจ๋ง ๆ ให้แวะแชะแวะเช็คอินกันเพียบเลยจ้า ตามมาด้วยร้านค้าสองข้างทางที่มีข้าวของน่ารัก
น่าใช้หลายอย่างให้เลือกช้อปกัน ระหว่างทางก็จะเจอกับเมนูน่าโดนทั้งที่เป็นของว่าง ของหวาน
หรือร้านที่ขายอาหารกันจริงจังชนิดเอาอิ่มเป็นมื้อ ๆ เค้าก็มีนะ อิ่มแล้วจะพายเรือคายัคชมวิวสองฝั่ง
คลองกันชิลล์ ๆ เป็นการย่อยอาหารก็ยังได้ คูลขนาดนี้ ต้องไปเช็คอินให้ไวแล้วละ

9. สยามสแควร์

หนึ่งในสิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมากรุงเทพฯ ก็คือการแวะมาอัพเดทเทรนด์ฮิตกันซักหน่อยนะ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าคอลเลกชั่นใหม่
แอ็คเซสซอรี่ส์ที่กำลังมา ไปจนถึงแก็ตเจ็ทและไอเท็มส์ใหม่ๆ ที่ควรต้องเรียนรู้หรือทำความรู้จักเอาไว้
ตามมาด้วยเมนูในกระแสทั้งคาว หวาน อาหารว่าง ไปจนถึงมื้อหลักหนักท้อง อะไรกำลังอินก็มาหากินหาชิมกันได้ที่นี่หมดนั่นละ
ช้อปเสร็จอยากแวะดูหนัง เดินดูงานอาร์ต หรือเพลินแบบจัดหนักกันกับโลกใต้ท้องทะเลสุดปัง
สยามสแคว์ก็มีให้จัดกันได้ทั้งนั้นจ้า ไม่มาถือว่าพลาดแหละ เอาจริง!

10. มิวเซียมสยาม

ใครเป็นสายพิพิธภัณฑ์ห้ามพลาดที่นี่ไป! ส่วนใครที่ไม่ได้เป็นสายพิพิธภัณฑ์ก็ห้ามพลาดที่นี่เช่นกันจ้า
เพราะนี่คือพิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้ที่ให้บรรยากาศแปลกหูแปลกตาจากพิพิธภัณฑ์ทั่วไป ภายใต้อาคารโบราณสีเหลืองสดใส
นั้นเต็มไปด้วยการใช้เทคโนโลยีและลูกเล่นต่าง ๆ ในการนำเสนอสารพัดเรื่องราวและแง่มุมแบบไทย ๆ
ที่เกิดขึ้นทั้งในอดีตและปัจจุบัน ผ่านการพรีเซ้นท์ในรูปแบบที่ชวนให้คิดวิเคราะห์ต่อได้ นี่จึงเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เข้าถึงได้ง่าย
สนุก ไม่ต้องตีความ และไม่น่าเบื่อเลยซักวินาที เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่อยากชวนให้แวะมา!

11. ท้องฟ้าจำลอง

ถ้าจะมองหาพิกัดในกรุงเทพฯ ที่ให้ทั้งความรู้ ความสนุก และความโรแมนติกในที่เดียวกัน ท้องฟ้าจำลอง
นี่ละคือสถานที่ซึ่งตอบโจทย์คุณได้ เริ่มจากความสนุกในการทดลองวิทยาศาสตร์แบบง่าย ๆ
ต่อด้วยการได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของท้องฟ้าและอวกาศ ปิดท้ายด้วยการไปสัมผัสบรรยากาศเหมือนลอยอยู่ในจักรวาล
ด้วยการท่องเที่ยวท่ามกลางหมู่ดวงดาวกับภาพยนตร์ในโดมโค้งครึ่งวงกลมขนาดใหญ่
ซึ่งด้านในมีนิทรรศการเล็ก ๆ เกี่ยวกับอวกาศให้เราได้ดูกันด้วยนะ ที่เก๋คือมีอควาเรียมไซส์มินิ
ให้เดินเล่นไปอีกจ้า ไปคนเดียวก็เพลิน เดินดูกับเพื่อนก็ได้ หรือจะไปกับคนรู้ใจก็ฟินจ้ะ ขอให้มาก็แล้วกัน

12. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร

อดีตพระราชวังโบราณ ที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงมาเป็นพิพิธภัณฑสถานสำหรับประชาชนแห่งแรก
ของเมืองไทยในปี พ.ศ.2402 ซึ่งเก็บรักษาสมบัติล้ำค่าในยุคอดีตเอาไว้มากมาย ตั้งแต่พระพุทธรูปองค์สำคัญของเมืองไทย
อย่างพระพุทธสิหิงค์ พระตำหนักและข้าวของเครื่องใช้ของเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงในยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์
ไปจนถึงชิ้นงานของช่างฝีมือและข้าวของเครื่องใช้ตั้งแต่สมัยสุโขทัย และชิ้นงานพุทธศิลป์ล้ำค่าอีกมากมาย
ถ้าจะดูให้ครบบอกเลยว่าคงต้องใช้เวลาเป็นวันเลยเชียวละใครชอบของเก่า
ชอบศิลปะ ชอบเดินพิพิธภัณฑ์ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

13. ตลาดน้อย

ย่านการค้าเก่าแก่สำคัญตั้งแต่ยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชุมชนชาวจีนในบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ซึ่งทุกวันนี้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดชิคของกรุงเทพฯ โดยจัดเป็นเส้นทางปั่นจักรยานแบบสบาย ๆ
ที่ตลอดเส้นทางจะเต็มไปด้วยวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นและของกินรสเด็ดซึ่งสืบทอดรสชาติกันมาจากรุ่นสู่รุ่นอีกมากมาย
สลับกับอาคารเก่าแก่สารพัดสไตล์ที่สวยสะดุดตาไม่ว่าจะเป็นแบบยุโรปหรือจีน ระหว่างทางยังมีสตรีทอาร์ตแบบฮิป ๆ
ให้แวะถ่ายรูปเช็คอินกันอีกหลายจุดด้วยนะ ใครชอบเที่ยวฟีลนี้บอกเลยว่าทั้งอิ่มทั้งเพลิน!

14. เยาวราช

ย่านไชน่า ทาวน์ สุดอลังการของกรุงเทพฯ ซึ่งมีฉายาเรียกเล่น ๆ ว่าถนนสายทองคำ ใครเงินหนาอยากได้เครื่องประดับสวย ๆ
ก็มาตำกันได้แบบจุใจเลยจ้า ช่วงกลางคืนที่นี่ยังขึ้นชื่อลือชาในการเป็นย่านสตรีท ฟู้ดรสเด็ดแห่งหนึ่งของเมืองไทย
ที่มีเมนูอร่อยระดับประเทศให้ฟินกันได้แบบเจ็ดวันไม่ซ้ำเลยเชียวละ ด้านราคาอาจจะไม่ถึงขั้นถูกมากมาย
แต่ของกินย่านนี้นั้นได้ชื่อว่าใช้แต่วัตถุดิบชั้นดีที่อร่อยคุ้มค่า สายกินมาตระเวนกินกันได้ตั้งแต่เช้าไปถึงค่ำเลยเชียวละ
ใกล้กันยังมีย่านสำเพ็ง พาหุรัด ให้เดินช้อปปิ้งกันแบบสุดมันอีกด้วยนะ ไม่มาแล้วจะเสียดาย

15. วัดพระแก้ว

เป็นสถานที่สำคัญซึ่งถือเป็นไฮไลท์ยืนหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างปักหมุดมา
นี่คืออดีตพระบรมมหาราชวังซึ่งสร้างขึ้นมาในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยใช้เวลาสร้างถึงประมาณ 2 ปี
และเป็นที่ประดิษฐานองค์พระแก้วมรกตซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญในลำดับต้น ๆ
ของเมืองไทย นอกจากบริเวณพระอุโบสถแล้ว ไฮไลท์ของวัดนี้ยังอยู่ที่จิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์
ซึ่งอยู่บริเวณระเบียงโดยรอบ และยังมีรายละเอียดใหญ่น้อยสุดอลังการที่น่าสนใจ
ในทุกย่างก้าวเลยเชียวละ นี่คือวัดที่คนไทยทุกคนควรมาซักครั้งในชีวิตจริง ๆ

นี่แค่น้ำจิ้มนะ เพราะเมืองหลวงแห่งนี้ยังมีพิกัดที่ยังต้องเช็คอินอีกเพียบ !!! เมืองที่ไม่เคยหลับใหล
และเต็มไปด้วยชีวิตชีวาใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากเมืองสงบ ก็เลือกมาเที่ยวเมืองใหญ่ที่
เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย ก็ปักหมุดกันให้ไวเลยจ้า อย่าคิดนาน!

เปิดแอพแล้วกดจอง https://www.traveloka.com/th-th/flight/route/Hat-Yai-Bangkok.HDY.BKKA
ขอบคุณรูปจาก https://www.saichill.com/

อย่าลืม! กด Subscribe กด Like กด Share กันด้วยนะคะ

________________________________________________________________

Follow