ถ้าหากมีวันหยุดเที่ยวหาดใหญ่จนเบื่อแล้วลองเปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นการเข้าวัดทำบุญ วัดที่แสนสงบร่มรื่นต้องนึกถึง วัดพะโคะ ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ต้องไปกราบสักการะ “หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด” ซึ่งเป็นตำนานเล่าขานกันมารุ่นต่อรุ่นไม่รู้ลืม
จากเรื่องราวปาฏิหาริย์เล่ากันว่า “โจรสลัดจับตัวสมเด็จพะโคะไป แล่นเรือได้สักพักก็ไปต่อไม่ได้ต้องจอดอยู่หลายวันจนน้ำจืดภายในเรือหมดลง โจรสลัดพากันเดือนร้อนไปทั่ว สมเด็จพะโคะเกิดความสงสารจึงเอาเท้าซ้ายแช่ลงในน้ำทะเลเกิดเป็นประกายโชติช่วง น้ำทะเลกลายเป็นน้ำจืด โจรสลัดจึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธากราบไหว้ขอขมา เมื่อสมเด็จพะโคะขึ้นฝั่ง ประชาชนทราบเรื่องต่างก็พากันมากราบไหว้บูชากันเป็นจำนวนมาก”
เดิมที วัดพะโคะ ต.ชุมพล อ.สทิงพระ จ.สงขลา มีชื่อว่า วัดหลวง (ปัจจุบันใช้ชื่อ วัดราชประดิษฐาน แม้จะได้รับการเปลี่ยนชื่อแล้วแต่ชาวบ้านยังคงเรียกอย่างติดปากว่า วัดพะโคะ) เป็นวัดที่จำพรรษาของสมเด็จพะโคะ หรือหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งประชาชนให้ความนับถือเป็นจำนวนมาก มาสักการะกันอย่างไม่ขาดสาย
บรรยากาศภายในวัดมีความสงบร่มเย็น เมื่อเดินขึ้นบันไดผ่านพระพุทธรูปองค์ยืนจะพบบ่อน้ำซักจีวรหลวงปู่ทวดอยู่ทางขวามือ เยื้องขึ้นไปทางซ้ายมือจะมีจุดจำหน่ายดอกไม้ธูปเทียนโดยทำบุญตามศรัทธา สิ่งที่ควรสักการะ ได้แก่
* พระสุวรรณมาลิก เจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากลังกา
* พระพุทธไสยาสน์ (พระโคตมะ)
* รูปจำลองและอนุสาวรีย์สมเด็จพระราชมุนีสามีราม วางคู่กับรอยพระพุทธบาท (ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นรอยพระบาทของสมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ หรือหลวงปู่ทวด) ประดิษฐานอยู่ในมณฑปบนยอดเขา
* พระพุทธรูปสีทองปางนปรินิพพาน ยาว 18 เมตร สูง 2.5 เมตร
* พิพิธภัณฑ์วัดพะโคะ ซึงจัดสะแสดงวัตถุเกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่ทวด อย่าง อัฐบริขาร จีวร ไม้เท้าของหลวงปู่ทวด ลูกแก้วบารมี เป็นต้น
สำหรับผู้ที่ศรัทธาสามารถเดินทางไป กราบสักการะและบนบานขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ถือว่าเป็นการใช้วันหยุดที่คุ้มค่าเลยทีเดียว
ที่ตั้ง >> https://goo.gl/maps/FnZR5wnAuZ52